นโยบายคุณภาพ
สร้างศักยภาพคุณภาพแก่พนักงาน พัฒนากระบวนการภายใน
บริการให้เกิดความอบอุ่นไว้วางใจ รักษาไว้ซึ่งมาตรฐานและการเติบโต
วิสัยทัศน์
เราจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำประจำครอบครัว
ที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม มีมาตรฐาน ผู้รับบริการ ปลอดภัยและประทับใจ
พันธกิจ
ให้บริการสุขภาพครอบคลุม 4 มิติ ในด้านส่งเสริม ป้องกัน รักษาและฟื้นฟูสุขภาพ
แบบองศ์รวม ตามมาตรฐานวิชาชีพดำเนินการด้านสาธารณสุขตามนโยบายของ
กระทรวงสาธารณสุข และปัญหาสุขภาพในพื้นที่โดยประสานงานกับเครือข่ายบริการสุขภาพ
ค่านิยม
K = Knowledge Management
M = Management by Fact
H = Humanize
T = Teamwork
C = CQI
C = Customer focus
มาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล Hospital Accreditation (HA) Of Thailand
ห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลลาร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการตรวจ COVID-19
มาตรฐาน ห้องปฏิบัติการและรายงานผลอย่างต่อเนื่อง ในการประเมินคุณภาพ การตรวจวิเคราะห์ประจำปี 2560
มาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล Hospital Accreditation (HA) Of Thailand
มาตรฐานคุณภาพระบบ ISO 9001 : 2000 จาก บริษัท United Registrar of Systems Ltd. (URS)
มาตรฐาน ISO 15189 : 2007
E-CLAIM AWARDS 2018 ดีเด่น อับดับ 3
รางวัลการใช้ระบบสินไหมอัตโนมัติดีเด่นประเภทการบันทึกข้อมูลมากกว่า 2 พันข้อมูล
E-CLAIM AWARDS 2018 ดีเด่น อับดับ 3
รางวัลการใช้ระบบสินไหมอัตโนมัติดีเด่นประเภทการบันทึกข้อมูลมากกว่า 2 พันข้อมูล
โรงพยาบาลที่มีคุณธรรมธรรมาภิบาลสูง ปี 2563 Good Governance Hospital
E-CLAIM AWARDS 2018 ดีเด่น อับดับ 3
รางวัลการใช้ระบบสินไหมอัตโนมัติดีเด่นประเภทการบันทึกข้อมูลมากกว่า 2 พันข้อมูล
โรงพยาบาลที่มีคุณธรรมธรรมาภิบาลสูง ปี 2563 Good Governance Hospital
โรงพยาบาลที่มีระบบการจัดการด้านยาเสพติดในสถานประกอบการ ตามโครงการโรงงานสีขาว ระดับ 3
กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรคที่ส่งมอบเกียรติบัตรไว้เพื่อเเสดงว่าทางโรงพยาบาลได้เข้าร่วมพัฒนาสถานประกอบการโรค ปลอดภัย กายใจเป็นสุข
แผนกฉุกเฉิน
เปิดให้บริการ 24 ชัวโมง
โทรเหตุด่วน - ฉุกเฉิน
โทร.1669
แผนกผู้ป่วยนอก (อาคารพรีเมียร์ชั้น 1)
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 7.00 - 23.00 น.
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 12
ห้องตรวจสิทธิประกันสังคม (อาคารเก่า ชั้น 1)
เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 7.00 - 17.00 น.
* หยุดให้บริการวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 1109
(กรณีตรวจนอกเวลา สามารถเข้ารับบริการได้ที่แผนกผู้ป่วยนอกตึกใหม่)
ห้องตรวจสิทธิบัตรทอง (อาคารเก่า ชั้น 1)
เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 7.00 - 17.00 น.
* หยุดให้บริการวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 1109
(กรณีตรวจนอกเวลา สามารถเข้ารับบริการได้ที่แผนกผู้ป่วยนอกตึกใหม่)
คลินิกแม่และเด็ก (อาคารพรีเมียร์ ชั้น 2)
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.00 - 20.00 น.*
* เวลาให้บริการจะเป็นไปตามตารางการออกตรวจของแพทย์ แต่ละท่าน
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 2281
ศูนย์ตรวจสุขภาพ
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.00 - 17.00 น.
สนใจตรวจสุขภาพสอบถามได้ที่ 053-200 002 ต่อ 1717
ศูนย์ตรวจโรคตา
เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 12.00 น.
สนใจนัดหมาย/พบแพทย์ 053-200 002 ต่อ 12
ศูนย์ตรวจโรคทางหู คอ จมูก
เปิดให้บริการวันจันทร์ เวลา 8.00 - 19.00 น /วันอังคาร เวลา 13.00 - 16.00 น. /วันพฤ. เวลา 8.00 - 16.00 น./ วันศุกร์ เวลา 8.00 - 12.00 น.
สนใจนัดหมาย/พบแพทย์ 053-200 002 ต่อ 12
แพทย์แผนไทยประยุกต์
เปิดให้บริการวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 8.00 - 16.00 น.
* หยุดให้บริการวันหยุดนักขัตฤกษ์
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 1730
แผนกทันตกรรม (อาคารพรีเมียร์ ชั้น 2)
เปิดให้บริการวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 8.00 - 17.00 น.
* หยุดให้บริการวันหยุดนักขัตฤกษ์
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 2271
แผนกกายภาพบำบัด
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.00 - 16.00 น.
* หยุดให้บริการวันหยุดนักขัตฤกษ์
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 1719
แผนกกิจกรรมบำบัด
เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 16.00 น.
ในกรณีวันเสาร์-อาทิตย์ จะเปิดเป็นครั้งเป็นคราว ตามตารางของนักกิจกรรมบำบัด หากต้องการนัดหมายวันเสาร์ - อาทิตย์ กรุณาโทรนัดหมายล่วงหน้า
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 2286
แผนกไตเทียม
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 7.00 - 17.00 น.
* หยุดให้บริการวันหยุดนักขัตฤกษ์
เบอร์โทรติดต่อ 053-200 002 ต่อ 15
เทคโนโลยีทางการแพทย์ คือ การใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการด้านการแพทย์ให้กับผู้ป่วย
ไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยโรค การรักษาการติดตามอาการ ไปจนถึงการประเมินภาวะสุขภาพ
เทคโนโลยีทางการแพทย์ รพ.เชียงใหม่ใกล้หมอ
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุดจากกระบวนการ และตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความร่วมมือกับผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ แพทยสภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม ทันตแพทยสภา สภากายภาพบำบัด สภาเทคนิคการแพทย์ และคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ จึงได้ร่วมกันออกประกาศรับรองสิทธิและข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย ไว้ดังต่อไปนี้
สิทธิของผู้ป่วย
๑. ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะได้รับการรักษาพยาบาลและการดูแลด้านสุขภาพตามมาตรฐานวิชาชีพจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
๒. ผู้ป่วยที่ขอรับการรักษาพยาบาลมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริงและเพียงพอเกี่ยวกับการเจ็บป่วย การตรวจ การรักษา ผลดีและผลเสียจากการตรวจ การรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ด้วยภาษาที่ผู้ป่วยสามารถเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอม
ให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่ในกรณีฉุกเฉิน อันจำเป็นเร่งด่วนและเป็นอันตรายต่อชีวิต
๓. ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตมีสิทธิได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่
๔. ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบชื่อ สกุล และวิชาชีพของผู้ให้การรักษาพยาบาลแก่ตน
๕. ผู้ป่วยมีสิทธิขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นที่มิได้เป็นผู้ให้การรักษาพยาบาลแก่ตน และมีสิทธิในการขอเปลี่ยนผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพหรือเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสิทธิการรักษาของผู้ป่วยที่มีอยู่
๖. ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับการปกปิดข้อมูลของตนเอง เว้นแต่ผู้ป่วยจะให้ความยินยอมหรือเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อประโยชน์โดยตรงของผู้ป่วยหรือตามกฎหมาย
๗. ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้เข้าร่วมหรือผู้ถูกทดลองในการทำวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ
๘. ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อร้องขอตามขั้นตอนของสถานพยาบาลนั้น ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิหรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลของผู้อื่น
๙. บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้
ข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย
๑. สอบถามเพื่อทำความเข้าใจข้อมูลและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนลงนาม ให้ความยินยอม หรือไม่ยินยอมรับการตรวจวินิจฉัยหรือการรักษาพยาบาล
๒. ให้ข้อมูลด้านสุขภาพและข้อเท็จจริงต่างๆ ทางการแพทย์ที่เป็นจริงและ ครบถ้วนแก่ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพในกระบวนการรักษาพยาบาล
๓. ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของผู้ประกอบวิชาชีพด้าน สุขภาพเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ให้แจ้งผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพทราบ
๔. ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถานพยาบาล
๕. ปฏิบัติต่อผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ป่วยรายอื่นรวมทั้งผู้ที่มาเยี่ยมเยียน ด้วยความสุภาพให้เกียรติและไม่กระทำสิ่งที่รบกวนผู้อื่น
๖. แจ้งสิทธิการรักษาพยาบาลพร้อมหลักฐานที่ตนมีให้เจ้าหน้าที่ของสถาน พยาบาลที่เกี่ยวข้องทราบ
๗. ผู้ป่วยพึงรับทราบข้อเท็จจริงทางการแพทย์ ดังต่อไปนี้
๗.๑ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานและ จริยธรรม ย่อมได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายกำ หนดและมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการถูกกล่าวหาโดยไม่เป็นธรรม
๗.๒ การแพทย์ในที่นี้หมายถึง การแพทย์แผนปัจจุบันซึ่งได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ โดยองค์ความรู้ในขณะนั้นว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษสำหรับผู้ป่วย
๗.๓ การแพทย์ไม่สามารถให้การวินิจฉัย ป้องกัน หรือรักษาให้หายได้ทุกโรคหรือทุกสภาวะ
๗.๔ การรักษาพยาบาลทุกชนิดมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลอันไม่พึงประสงค์ได้ นอกจากนี้เหตุสุดวิสัยอาจเกิดขึ้นได้แม้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพจะใช้ความระมัดระวังอย่างเพียงพอตามภาวะวิสัยและพฤติการณ์ในการรักษาพยาบาลนั้นๆ แล้ว
๗.๕ การตรวจเพื่อการคัดกรอง วินิจฉัย และติดตามการรักษาโรค อาจให้ผลที่คลาดเคลื่อนได้ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่ใช้และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน
๗.๖ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพมีสิทธิใช้ดุลพินิจในการเลือกกระบวนการรักษาพยาบาลตามหลักวิชาการทางการแพทย์ตามความสามารถและข้อจำกัด ตามภาวะวิสัยและพฤติการณ์ที่มีอยู่รวมทั้งการปรึกษาหรือส่งต่อโดยคำนึงถึงสิทธิและประโยชน์โดยรวมของผู้ป่วย
๗.๗ เพื่อประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอาจให้ คำแนะนำ หรือส่งต่อผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องไม่อยู่ในสภาวะฉุกเฉินอันจำเป็นเร่งด่วนและเป็นอันตรายต่อชีวิต
๗.๘ การปกปิดข้อมูลด้านสุขภาพ และข้อเท็จจริงต่างๆ ทางการแพทย์ของผู้ป่วยต่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอาจส่งผลเสียต่อกระบวนการรักษาพยาบาล
๗.๙ ห้องฉุกเฉินของสถานพยาบาล ใช้สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินอันจำเป็นเร่งด่วนและเป็นอันตรายต่อชีวิต
ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘